การเข้ามาของปั๊มไดอะแฟรมและบทบาทใหม่ของปั๊มลูกสูบสำหรับงานก่อสร้าง

​

ในอดีต WAGNER มีทั้งปั๊มไดอะแฟรมและปั๊มลูกสูบแต่เนื่องจากทั้งสองแบบสามารถนำมาใช้งานในลักษณะเดียวกันได้หรือแม้แต่เครื่องแบบลูกสูบด้วยกันเองก็มีหลายรุ่นมากและสเปคที่ใกล้ ๆ กันทำให้ตัวสินค้ามีหลายรุ่นมากเกินไปและสร้างความสับสนให้กับลูกค้าได้

​

แต่แล้วการเกิดของปั๊มไดอะแฟรม Hero 23 ทำให้แนวทางการจัดกลุ่มสินค้าได้เปลี่ยนไปด้วยปั๊มขนาดเล็กแต่สามารถรองรับงานขนาดกลางได้ (ขนาดหัวพ่นไม่เกิน 0.025 นิ้ว) นั้นคือการครอบคลุมประเภทการใช้งานได้หลากหลายมากขึ้นจนเปลี่ยนโครงสร้างสินค้ากลุ่มงานพ่นสีก่อสร้างไปเลย

​

ในขณะที่ปั๊มลูกสูบรุ่นเดิมอย่าง Prospray และ Heavy Coat นั้นทาง ROM ตัดสินใจที่จะวางเครื่องพ่นสีลูกสูบให้เครื่องที่ใช้งานหนักสำหรับสีหนืดสูงพิเศษและการใช้งานกับสกิมโค้ทซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการแบ่งแยกเครื่องพ่นสีแบบไดอะแฟรมและลูกสูบออกจากกันอย่างชัดเจนโดยใช้ข้อดีที่แตกต่างกันของ 2 แบบในการตอบโจทย์ผู้รับเหมาได้มากขึ้น

​

อย่างไรก็ตามได้มีการเพิ่มในส่วนของเครื่องพ่นสีแบบลูกสูบสำหรับสี 2K ที่เป็นสีพิเศษที่เครื่องธรรมดาไม่สามารถใช้การได้ ทั้งหมดนี้เป็นการตอบโจทย์ที่ของเครื่องพ่นสีที่ต้องช่วยในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

​

1. ช่วยประหยัดสีด้วยระบบไร้อากาศที่ให้อัตราการฟุ้งต่ำด้วยแรงดันอย่างเดียว

2. ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วช่วยประหยัดเวลาการทำงานได้

3. ใช้คนน้อยลงเพราะตัวอุปกรณ์ที่ใช้งานง่ายและช่วยทุนแรงไปได้

4. ต้องมีอุปกรณ์พ่นสีทุกรุ่นที่นำเข้ามาสามารถครอบคลุมการใช้งานได้ทุกประเภทซึ่งข้อสุดท้ายเป็นเหตุผลหลักทำให้ต้องมี 2K Protec